สมัยนี้ Facebook Marketplace กำลังฮิตแบบสุดๆ ครับ เต็มไปด้วยคนขายเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสอง ของเยอะให้เลือกจนตาลาย แถมราคาก็น่ารักจนใจอยากซื้อไปหมด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลายคนยังมีคำถามในใจว่า…
“มันน่าเชื่อถือจริงไหม?”
“จะโดนหลอกหรือเปล่า?”
“ซื้อมือสองในนี้ดีจริงไหมนะ?”
บทความนี้เลยจะช่วยไขข้อสงสัยให้ครบ พร้อมกับแชร์ทริคเด็ดๆ ที่จะช่วยให้คุณช้อปปิ้งมือสองใน Facebook Marketplace ได้อย่างปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุดครับ มาเริ่มกันเลยครับ!
คำถามยอดฮิต: ซื้อของมือสองผ่าน Marketplace ดีไหม?
หลายคนคงเคยสงสัยเหมือนผมตอนแรกว่า การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองผ่าน Facebook Marketplace นี่มันดีจริงไหม? คุ้มค่าหรือเปล่า? มีความเสี่ยงอะไรบ้าง? วันนี้ผมขอแยกให้เห็นชัดๆ เป็นข้อดีและข้อควรระวัง เผื่อจะช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นครับ
ข้อดีที่ต้องบอกต่อ
-
ราคาถูกกว่าซื้อตามร้านแน่นอนครับ
ของมือสองใน Marketplace ราคาดึงดูดใจมาก บางทีได้ของคุณภาพดีในราคาที่ถูกกว่าของใหม่หลายเท่า
-
ตัวเลือกเยอะมาก หลากหลายแบบ
ไม่ว่าจะเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ๆ ที่คนขายเอามาปล่อย หรือของมือสองสภาพดีจากผู้ใช้จริง คุณมีโอกาสเลือกเยอะตามใจเลยครับ
-
พูดคุยกับผู้ขายได้โดยตรง ต่อรองราคาก็ทำได้สบายๆ
นี่แหละข้อดีที่ Marketplace มีเหนือร้านค้า เพราะเราสามารถสอบถามรายละเอียด เช็กสภาพของจริง หรือขอส่วนลดได้ง่ายกว่า
ข้อควรระวังที่ไม่ควรมองข้าม
-
บางทีสินค้าจริงอาจไม่ตรงกับที่เห็นในรูป หรือสภาพไม่ดีอย่างที่คิด
ต้องระวังเรื่องนี้ให้มากครับ อย่าซื้อแค่เพราะรูปสวยๆ
-
เจอ “แม่ค้าเงียบ” หลังโอนเงินก็มีให้เห็นบ่อย
เรื่องนี้เป็นปัญหาที่เจอกันบ่อย ต้องเลือกซื้อจากผู้ขายที่ไว้ใจได้ หรือมีรีวิวดีช่วยยืนยัน
-
ไม่มีใบเสร็จหรือรับประกันเหมือนของใหม่เสมอไป
ถ้าเครื่องเสียหลังซื้อ จะต้องดูแลกันเอง หรือซ่อมเอง ไม่มีศูนย์รับเคลมหรือเปลี่ยนสินค้าให้
วิธีเช็กความน่าเชื่อถือของผู้ขาย
ก่อนจะกดโอนเงิน หรือปิดดีลเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองใน Marketplace อย่าเพิ่งรีบครับ ถึงของจะถูกใจ ราคาจะน่ารักแค่ไหน แต่ถ้าผู้ขายไม่น่าไว้ใจ ก็มีสิทธิ์ “น้ำตาซึม” ได้ง่ายๆ มาดูกันครับว่าเราจะเช็กความน่าเชื่อถือของผู้ขายยังไง ให้ซื้อได้อย่างอุ่นใจ ไม่ต้องเสี่ยงเจอของปลอม ของเสีย หรือแม่ค้าหายครับ
-
ดูโปรไฟล์ผู้ขายว่ามีตัวตนจริงหรือไม่
ก่อนอื่นเลย คลิกเข้าไปดูโปรไฟล์ครับ มีรูปจริงมั้ย? โพสต์อะไรบ้าง? เพื่อนในเฟซดูมีตัวตนจริงรึเปล่า? ถ้าโปรไฟล์โล่ง ไม่มีการเคลื่อนไหวเลย หรือมีแค่ของขายๆๆ อย่างเดียว อันนี้ต้องระวังนิดนึงครับ
-
เช็กรีวิวจากลูกค้าคนก่อนๆ (ถ้ามี)
ถ้าผู้ขายมีเพจ หรือเคยโพสต์ขายของบ่อยๆ ลองเลื่อนดูคอมเมนต์ครับ มีใครเคยซื้อแล้วมารีวิวไหม?
ถ้ามีลูกค้าเก่ามาการันตี ก็สบายใจขึ้นเยอะ แต่ถ้าเห็นคอมเมนต์ทำนอง “ไม่ตอบแชท” “ของเสีย” หรือ “ของไม่ตรงปก” ก็ควรหลีกเลี่ยงครับ
-
ถามรายละเอียดเครื่องชัดๆ + ขอดูรูปหลายมุม
ไม่ต้องเกรงใจครับ ถ้าจะถามให้ละเอียด เช่น
– อายุการใช้งาน
– มีรอยบุบ รอยไหม้ หรือเสียงผิดปกติไหม
– ใช้งานอะไรได้บ้าง
– ขอดูรูปหลายๆ มุม หรือแม้แต่คลิปตอนเปิดเครื่อง
ใครขายของดีจริง เค้าจะตอบแบบเต็มใจและให้ข้อมูลครบแน่นอนครับ
-
ถ้าเป็นไปได้ นัดรับเองดีที่สุดครับ
ข้อนี้ถือว่า “กันเหนียว” สุดๆ เลยครับ ถ้าผู้ขายอยู่ไม่ไกล ลองนัดรับเองเลยครับ จะได้ตรวจเครื่องก่อนจ่ายเงินจริง บางครั้งแค่ได้เห็นของจริง ได้คุยตัวต่อตัว เราก็จะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และลดโอกาสโดนหลอกลงไปเยอะมากครับ
ทริคเลือกรุ่น เลือกเครื่องให้คุ้มค่า
การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองใน Marketplace ไม่ใช่แค่เรื่องของ “ราคา” ถูกอย่างเดียวไม่พอครับ ต้องดูให้คุ้มค่าด้วย ยิ่งถ้าเลือกเครื่องหรือเลือกรุ่นดีตั้งแต่ต้น เราก็มีโอกาสได้ของที่ใช้งานได้ยาวๆ คุ้มแบบลืมไปเลยว่ามือสอง มาดูกันครับว่า ถ้าจะซื้อให้คุ้ม ต้องส่องอะไรบ้าง
-
เลือกรุ่นที่มีรีวิวดี หรือแบรนด์ที่มีศูนย์บริการรองรับ
ก่อนจะซื้อ ลองพิมพ์ชื่อรุ่นนั้นใน Google หรือ YouTube ดูครับ ว่ามีคนรีวิวไว้ยังไงบ้าง
– ใช้งานดีไหม?
– ทนรึเปล่า?
– มีปัญหาอะไรบ่อยไหม?
ถ้าเป็นแบรนด์ที่มีศูนย์บริการในไทย จะอุ่นใจกว่าเยอะครับ เพราะถ้าเกิดมีปัญหาภายหลัง ยังพอส่งซ่อมหรือหาชิ้นส่วนได้ง่าย
-
เช็กสภาพเครื่องให้ดี ไม่มีรอยสนิม สายไฟไม่ชำรุด
ของมือสองที่ดี ไม่จำเป็นต้องดูใหม่เอี่ยมครับ แต่อย่างน้อยก็ควร
- ไม่มีรอยสนิมหรือรอยบุบใหญ่
- สายไฟยังแน่น ไม่เปื่อย ไม่หลุด
- ปุ่มกดหรือหน้าจอใช้งานได้ครบ
แนะนำให้ขอคลิปเปิดเครื่องสั้นๆ หรือถ้าเจอนัดรับได้ ลองเปิดเครื่องเช็กก่อนรับของจะดีที่สุดครับ!
-
มือใหม่ควรเริ่มจากของชิ้นเล็กๆ ก่อน
ถ้ายังไม่เคยซื้อของมือสองมาก่อน ผมแนะนำให้ลองจากของเล็กๆ ก่อนครับ เช่น
- ไมโครเวฟ
- พัดลม
- เตาไฟฟ้าเล็ก
เพราะของพวกนี้ใช้งานไม่ซับซ้อน ราคาย่อมเยา และตรวจสอบสภาพได้ง่าย เหมาะกับคนที่อยากลองสนามก่อนจะขยับไปซื้อของชิ้นใหญ่แบบตู้เย็นหรือเครื่องซักผ้า
ถ้าซื้อมาแล้วมีปัญหา ควรทำยังไง?
มือสองก็ไม่ใช่ว่าจะเพอร์เฟกต์ทุกครั้งครับ บางทีอาจเจอเครื่องมีปัญหา จุกจิก หรือผิดจากที่คุยไว้
แต่ไม่ต้องตกใจครับ! ยังมีวิธีรับมือแบบมีสติ ไม่หัวร้อน มาดูกันเลยว่า ถ้าเจอปัญหา ควรจัดการยังไงดี?
-
ติดต่อผู้ขายทันที พร้อมหลักฐาน (แชต + รูปสินค้า)
อย่างแรกที่ต้องทำคือ ติดต่อผู้ขายให้เร็วที่สุดครับ แนบแชตเดิมตอนคุยกัน และส่งรูปหรือวิดีโอที่แสดงปัญหาชัดๆ เช่น
– เครื่องไม่ติด
– เสียงดังผิดปกติ
– มีรอยที่ไม่แจ้งไว้
อย่ารอจนปัญหาบานปลาย เพราะยิ่งติดต่อเร็ว โอกาสได้คำตอบหรือการแก้ไขก็ยิ่งมากครับ
-
ถ้ามีรับประกันจากร้าน ให้ใช้สิทธินั้น
บางร้านมือสองดีๆ เขาจะมี รับประกัน 3–6 เดือน หรืออาจจะเป็นแบบ “เคลมได้ใน 7 วันแรก”
ถ้ามีแบบนี้ อย่าลืมใช้สิทธิ์ครับ! เก็บใบเสร็จหรือข้อความที่ระบุไว้ให้ดี เพราะนั่นคือหลักฐานสำคัญที่จะช่วยให้เคลมได้สะดวกขึ้น
-
เลือกร้านที่มีเพจหรือชื่อเสียงในกลุ่ม Marketplace จะติดตามง่ายกว่า
ถ้าเป็นไปได้ ตั้งแต่แรกควรเลือกซื้อกับ
– ร้านที่มีเพจ
– ขายบ่อยในกลุ่ม Marketplace
– มีชื่อเสียง มีรีวิวจากลูกค้าเก่า
เพราะถ้าเกิดปัญหา เราสามารถตามเรื่องได้ง่ายกว่า มากกว่าการซื้อจากคนทั่วไปที่อาจหายเข้ากลีบเมฆหลังโอนเงินครับ
สรุป
สรุปง่ายๆ เลยนะครับว่า Facebook Marketplace นี่ของดีจริงๆ มีของน่าสนใจเยอะมาก แต่ก็ต้องมี “สายตาอาชญากร” หรือสายตานักช้อปที่คมกริบสักหน่อยครับ แค่เลือกให้เป็น ถามให้ครบ เช็กของให้ละเอียด ก็สามารถได้ของดี ในราคาคุ้มๆ แบบไม่ต้องเสี่ยงโดนหลอก หรือเจอของเสียกลางทางสุดท้ายนี้ ขอให้จำไว้เลยครับว่า มือสองไม่ได้แปลว่าน่ากลัว หรือแย่เสมอไป ถ้าเราเรียนรู้วิธีดูแลตัวเอง รู้จักตรวจสอบก่อนซื้อ ทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดีแน่นอนครับ ขอให้สนุกกับการช้อปปิ้งมือสองอย่างชาญฉลาดนะครับ คุณสามารถอ่านบทความอื่นๆที่เป็นประโยชน์ได้ที่ ตู้เย็นมือ2.com ได้เลยนะครับ